การทำรากฟันเทียม คือ การทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไปจากปัจจัยหลายๆอย่าง ทำให้ผู้ที่สูญเสียฟันเกิดปัญหาตามมาเช่นการบดเคี้ยวอาหารหรือขาดความไม่มั่นใจ การทำรากฟันเทียมจึงเป็นการทดแทนฟันธรรมชาติด้วยวัสดุจากไทเทเนียมที่ออกแบบมาให้เข้ากับร่างกายคนได้ดี สามารถใช้ยึดติดกับขากรรไกรในตำแหน่งที่เสียฟันธรรมชาติไปได้ เป็นการใส่ฟันทดแทนแบบติดแน่น สามารถใช้บดเคี้ยวอาหารและให้ความสวยงามที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด

หมดปัญหาฟันหลอ ขาดความมั่นใจ เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด รับประทานอาหารไม่อร่อย ทดแทนฟันที่สูญเสียไปด้วยรากฟันเทียม

ข้อดีและข้อจำกัดในการทำรากฟันเทียม

ข้อดีของรากฟันเทียม                                                         ข้อจำกัดในการทำรากฟันเทียม

- เพิ่มความมั่นใจ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น                                                - มีราคาสูงกว่าฟันปลอมประเภทอื่น
- สามารถใช้บดเคี้ยวอาหารได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ                                - ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่สามารถทำรากฟันเทียมได้
- สวยงามดูเป็นธรรมชาติ                                                              - มีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
- มีความคงทน หมดกังวลเรื่องฟันปลอมหลวมหรือหลุด

ส่วนประกอบของรากฟันเทียม

 


  • รากฟันไทเทเนียม (Screw or Implant body) คือ ส่วนที่ฝังลงในกระดูกคล้ายสกรู ทำหน้าที่แทนรากฟันจริง มีความแข็งแรงคงทน
  • เดือยรองรับครอบฟัน (Abutment) คือ ส่วนที่รับรองตัวครอบฟัน เพื่อให้ครอบฟันยึดติดแน่นกับรากฟันไทเทเนียม
  • ครอบฟัน(Crown) คือ ตัวฟันทำจากเซรามิก โดยมีสีเหมือนฟันและรูปร่างคล้ายฟันธรรมชาติ สามารถใช้บดเคี้ยวอาหารได้

ขั้นตอนการฝังรากเทียม

  • ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา ตรวจประเมินโดยละเอียด x-ray หรือ CT Scan เพื่อประเมินความหนาของกระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่อบนสันเหงือก และกำหนดตำแหน่งที่เหมาะสมของรากฟันไทเทเนียม
  • ทันตแพทย์ทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมในตำแหน่งที่เหมาะสม ในบางกรณีอาจมีการเสริมกระดูกก่อน
  • รอให้กระดูกยึดกับรากฟันเทียมซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน
  • พิมพ์ปากและใส่เดือยรองรับครอบฟัน
  • ใส่ครอบฟัน

    (ในแต่ละขั้นตอนจะมีการนัดพบคุณหมอเพื่อติดตามอาการเป็นระยะ)

 

การรักษารากฟันเทียมแบบเต็มปาก

ใส่ฟันปลอมทั้งปากร่วมกับรากใส่เทียมหรือรากฟันเทียมรองรับฟันปลอม เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำฟันปลอมทั้งปากหรือใส่ฟันปลอมทั้งปากชนิดถอดได้อยู่แล้ว การมีรากฟันเทียมช่วยยึดฟันปลอมจะทำให้ฟันปลอมมีเสถียรภาพมากขึ้น แน่นขึ้น ใช้บดเคี้ยวอาหารได้ดี

โดยทางคลินิกให้บริการรักษารากฟันเทียมแบบเต็มปาก 2  แบบดังนี้

    รากฟันเทียมรองรับฟันปลอม การรักษานี้ช่วยให้ฟันปลอมที่ใส่มีที่ยึด ไม่ขยับไปมาและทำให้ฟันปลอมแน่นขึ้น จำนวนรากฟันเทียมที่ฝังทันตแพทย์เฉพาะทางรากฟันเทียมจะเป็นผู้ประเมินจำนวนรากฟันเทียมที่จำเป็นต้องใช้จากสภาพกระดูกโดยมีจะความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล 

    รากฟันเทียมแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระดูกบริเวณขากรรไกรด้านท้ายละลายตัวเพราะทันตแพทย์ฝังรากฟันเทียมบริเวณกระดูกขากรรไกรด้านหน้า ใช้รากฟันเทียม2-4รากพร้อมกับหลักยึดฟันปลอม การดูแลความสะอาดสามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดดังเช่นฟันปลอมปกติ

ข้อดี

  • ช่วยยึดฟันปลอมแบบถอดได้ให้แน่นขึ้น
  • ลดการระคายเคืองของเหงือกและช่องปากจากการใส่ฟันปลอมไม่พอดี
  • สามารถถอดเข้าออกได้ด้วยตัวเอง

 

ข้อจำกัด

  • ยังคงเป็นฟันปลอมชนิดถอดได้และต้องระมัดระวังขณะเคี้ยวอาหาร

    ระบบรากฟันเทียม All-On-4 เป็นการทดแทนฟันทั้งขากรรไกรโดยใช้รากเทียม 4-6 ราก บริเวณกระดูกขากรรไกรด้านหน้าซึ่งมักจะมีมากกว่าด้านหลัง ทันตแพทย์จะใช้สกรูเพื่อยึดฟันปลอมเข้ากับแกนหลักยึดบนรากฟันเทียม ไม่ให้กระดก หรือ โยกไปมาได้เหมือนฟันปลอมทั่วๆไป ไม่จำเป็นต้องถอดออกมาทำความสะอาดเหมือนฟันปลอมปกติ

    การดูแลรักษาสามารถแปรงฟันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันและเครื่องฉีดน้ำสำหรับช่องปากตามคำแนะนำของทันตแพทย์ และจะมีการนัดพบทันตแพทย์เพื่อถอดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

ข้อดี

  • เหมาะสำหรับคนไข้ที่สูญเสียกระดูกรองรับฟันไปมาก
  • มีความแข็งแรง ให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติ
  • เป็นฟันปลอมแบบติดแน่น หมดปัญหาฟันปลอมโยกหรือหลวม


ข้อจำกัด

  • ต้องพยายามทำความสะอาดใต้ฟันปลอมเป็นประจำทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเศษอาหารติดอยู่ และยังต้องพบทันตแพทย์ประจำปีเพื่อการทำความสะอาดที่สมบูรณ์เพื่อให้เหงือกและกระดูกมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรง

รีวิวเคส

ค่าใช้จ่ายในการทำรากฟันเทียม


 

สอบถามเพิ่มเติมหรือทำนัดหมาย

    

คำถามที่พบบ่อย

  • รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานไหม? ใช้ได้นานเท่าไหร่?
    รากฟันเทียมสามารถมีอายุการใช้งานได้ 10 - 20 ปีหรือตลอดชีวิตได้ ปัจจัยสำคัญของอายุการใช้งานคือการดูแลรักษาความสะอาดและสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ พบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ 6 เดือน ไม่เคี้ยวของแข็งจนเกินไปซึ่งอาจทำให้ครอบฟันบนรากเทียมแตก หรือไม่ประสบอุบัติเหตุซึ่งกระทบกับรากฟันเทียม ก็สามารถยืดอายุการใช้งานรากฟันเทียมได้

  • ฝังรากฟันเทียมเจ็บไหม? ดูแลแผลหลังผ่าตัดยังไง?
    การฝังรากฟันเทียมไม่เจ็บอย่างที่คิด ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดภายใต้ชายาเฉพาะที่ และสั่งยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ และน้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อ ช่วง1-2 วันหลังผ่าตัดหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือขยับปาก ทานอาหารอ่อนและรสไม่จัด ใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อหลังมื้ออาหาร และทานยาตามที่ระบุ อาการปวดตึงจะค่อยๆดีขึ้นใน 3-7 วัน หากคนไข้ทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอก็สามารถคุมความเจ็บปวดได้และแผลหายเร็วขึ้นได้อีกด้วย

  • มีการรับประกันหรือไม่?
    ตัวรากเทียมหรือImplant Body รับประกันตลอดอายุการใช้งาน และครอบฟันบนรากเทียมรับประกัน 2 ปี

  • สามารถแบ่งชำระได้หรือไม่?
    สามารถแบ่งชำระกับทางคลินิกตามแผนการรักษาได้ 2-6 ครั้ง เริ่มต้นเพียงครั้งละ 6,500 บาท หรือผ่อนชำระ 0% 10 เดือนกับบัตรเครดิต เริ่มต้น 4,400 บาทต่อเดือน

  • ใส่รากฟันเทียม สามารถทำ MRI ได้หรือไม่?
    หากใส่รากฟันเทียมแล้วสามารถทำ MRI ได้ตามปกติซึ่งการตรวจ MRI จะใช้คลื่นสนามแม่เหล็กในการตรวจ อาจจะมีผลอยู่บ้างในเรื่องของคุณภาพของภาพ MRI ที่ได้ แต่ไม่ได้มีอันตรายต่อผู้เข้ารับการตรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้ควรแจ้งแพทย์ที่ทำการตรวจ MRI ให้ทราบว่า ท่านมีรากฟันเทียมอยู่ในปาก
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้